อาคารสูงเป็นโครงสร้างที่มีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์อัคคีภัยเนื่องจากความซับซ้อนของการออกแบบ การใช้งานที่หลากหลาย และจำนวนผู้อาศัยหรือผู้ใช้งานในพื้นที่ การติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติในอาคารสูงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของอาคารควรมี เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ คืออะไร
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Automatic Fire Suppression System) คือ ระบบที่สามารถตรวจจับและระงับเหตุเพลิงไหม้โดยไม่ต้องพึ่งพาการปฏิบัติการของมนุษย์ ระบบนี้ทำงานผ่านการผสานกันของเทคโนโลยีเซนเซอร์ วาล์วควบคุม และสารดับเพลิง ตัวอย่างระบบที่พบได้บ่อยในอาคารสูง ได้แก่ ระบบสปริงเกลอร์ (Sprinkler System) ระบบน้ำดับเพลิง (Standpipe and Hose System) และระบบแก๊สเฉื่อย (Inert Gas System)
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
การติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- NFPA 13: Standard for the Installation of Sprinkler Systems
มาตรฐานนี้จาก National Fire Protection Association (NFPA) เป็นแนวทางสำคัญในการออกแบบและติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทหัวฉีด ระยะห่างระหว่างหัวฉีด และแรงดันน้ำที่เหมาะสม - ISO 6182: Fire Protection – Automatic Sprinkler Systems
มาตรฐานสากลที่กำหนดเกี่ยวกับอุปกรณ์ในระบบสปริงเกลอร์ เช่น วาล์ว ปั๊มน้ำ และการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ - กฎหมายในประเทศไทย
ในประเทศไทย การติดตั้งระบบดับเพลิงในอาคารต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เช่น กฎกระทรวงว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2552
ส่วนประกอบของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ในอาคารสูง
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติในอาคารสูงประกอบด้วยส่วนสำคัญ ดังนี้:
1. หัวฉีดน้ำ (Sprinkler Heads)
หัวฉีดน้ำทำหน้าที่ปล่อยน้ำออกเมื่อเกิดเพลิงไหม้ โดยมีการออกแบบให้เหมาะสมกับประเภทพื้นที่ เช่น
-
-
- Concealed Sprinkler: ใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความสวยงาม
- Open Sprinkler: ใช้ในพื้นที่เสี่ยงสูง
-
2. ท่อส่งน้ำ (Piping System)
ระบบท่อแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:
-
-
- Wet Pipe System: มีน้ำอยู่ในท่อตลอดเวลา
- Dry Pipe System: ใช้อากาศแทนน้ำในท่อ เพื่อป้องกันการแข็งตัวของน้ำในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ
-
3. ปั๊มน้ำ (Fire Pumps)
ปั๊มน้ำช่วยเพิ่มแรงดันให้ระบบน้ำดับเพลิง โดยเฉพาะในอาคารสูงที่แรงดันน้ำจากแหล่งน้ำหลักไม่เพียงพอ
4. แหล่งน้ำสำรอง (Water Supply)
เช่น ถังเก็บน้ำหรือแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉิน
วิธีเลือกระบบดับเพลิงอัตโนมัติในอาคารสูง ต้องดูอะไรบ้าง
การออกแบบระบบดับเพลิงในอาคารสูงต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
- วิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Assessment)
การวิเคราะห์ความเสี่ยงช่วยระบุพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ในอาคาร เช่น ห้องเครื่องจักร ห้องไฟฟ้า หรือพื้นที่เก็บวัสดุไวไฟ - คำนวณแรงดันน้ำและการไหลของน้ำ
การคำนวณแรงดันน้ำต้องเป็นไปตามข้อกำหนด เช่น NFPA 13 ซึ่งกำหนดแรงดันน้ำขั้นต่ำสำหรับหัวฉีดแต่ละประเภท - เลือกอุปกรณ์
การเลือกหัวฉีด วาล์ว และปั๊มน้ำ ต้องพิจารณาคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น ความต้านทานการกัดกร่อน ความทนทานต่ออุณหภูมิ - การบูรณาการกับระบบสัญญาณแจ้งเตือนอัคคีภัย (Fire Alarm System)
ระบบดับเพลิงควรทำงานร่วมกับระบบแจ้งเตือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้
ข้อดีของการติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติในอาคารสูง
- เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ระบบดับเพลิงสามารถลดความเสียหายได้ทันทีหลังเกิดเพลิงไหม้ - ช่วยให้การอพยพเป็นไปอย่างปลอดภัย
การทำงานของระบบช่วยลดความรุนแรงของเพลิงไหม้ ทำให้ผู้ใช้อาคารมีเวลามากขึ้นในการอพยพ - ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
การควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็วช่วยลดความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร
ข้อควรระวังในการติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติในอาคารสูง
- ข้อจำกัดของพื้นที่
อาคารสูงมักมีพื้นที่จำกัดในการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น ถังเก็บน้ำหรือท่อส่งน้ำ - การบำรุงรักษา
ระบบที่ซับซ้อนต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพ - การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน
ผู้ติดตั้งต้องเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนติดตั้งและหลังติดตั้งระบบดับเพลิง ในข้อกำหนดหลังติดตั้งระบบดับเพลิงนั้น เจ้าของอาคารต้องมีการตรวจสอบระบบดับเพลิงประจำปี พร้อมส่งรายงานการตรวจสอบให้เจ้าพนักงาน
บริการตรวจสอบระบบดับเพลิง จากทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมออกรายงานตรวจสอบ ให้บริการตรวจสอบทุก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ติดต่อสอบถาม : [email protected] หรือ โทร : 064 958 7451
สรุป
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในอาคารสูง การติดตั้งระบบที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น NFPA 13 และ ISO 6182 ช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบดับเพลิงเพื่อออกแบบและติดตั้งระบบที่เหมาะสมกับลักษณะของอาคารและความต้องการเฉพาะ
บทความที่น่าสนใจ
- เจาะลึกปั๊มน้ำดับเพลิง การทำงานและความสำคัญ ในการป้องกันอัคคีภัย
- เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการติดตั้งนั่งร้าน มีอะไรบ้าง
- 10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ คปอ (คณะกรรมการความปลอดภัยฯในการทำงาน)
- เช่า หรือ ซื้อรถยก สำหรับธุรกิจของคุณแบบไหนคุ้มกว่า