Home » ABCD ปฐมพยาบาล คืออะไร ทักษะชีวิตที่ทุกคนต้องรู้

ABCD ปฐมพยาบาล คืออะไร ทักษะชีวิตที่ทุกคนต้องรู้

by pam
5 views
ABCD ปฐมพยาบาล คือ

ไม่ว่าเราจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างการเดินทาง เหตุการณ์ฉุกเฉินที่คาดไม่ถึงสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่อาจคุกคามชีวิตในพริบตา การมีทักษะปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานจึงไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “ความจำเป็น” ที่ทุกคนควรมีติดตัว หนึ่งในแนวทางสำคัญที่ได้รับการยอมรับและนำมาใช้ทั่วโลกคือ “หลักการ ABCD” ของการปฐมพยาบาล ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ช่วยเหลือสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตัดสินใจอย่างแม่นยำ และดำเนินการช่วยชีวิตอย่างเป็นระบบ

ความหมายของ ABCD ในการปฐมพยาบาล

ABCD เป็นตัวย่อที่ใช้แทนกระบวนการประเมินและช่วยเหลือเบื้องต้นในผู้ประสบเหตุ มีรายละเอียดดังนี้

  • A (Airway) – เปิดทางเดินหายใจ

  • B (Breathing) – ตรวจสอบการหายใจ

  • C (Circulation) – ประเมินการไหลเวียนโลหิต

  • D (Disability) – ประเมินภาวะทางระบบประสาท

แนวทางนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปฐมพยาบาลสามารถทำการช่วยเหลืออย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเน้นไปที่การรักษาชีวิตเป็นลำดับแรกก่อนการดูแลปัจจัยอื่น ๆ

Airway

A – Airway: เปิดทางเดินหายใจ

เป้าหมาย: ทำให้แน่ใจว่าทางเดินหายใจของผู้ประสบเหตุนั้นโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สิ่งกีดขวางในทางเดินหายใจ เช่น ลิ้นตกปิดทางเดินหายใจ, เสมหะ, เลือด, หรือวัตถุแปลกปลอม สามารถทำให้ผู้ประสบเหตุขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น

ขั้นตอนการเปิดทางเดินหายใจ

  1. การเช็กเบื้องต้น: สังเกตว่าผู้ประสบเหตุมีเสียงกรน เสียงหายใจผิดปกติ หรือไม่มีเสียงหายใจเลยหรือไม่

  2. การเปิดทางเดินหายใจแบบพื้นฐาน (Head Tilt – Chin Lift):

    • ประคองหน้าผากให้เงยขึ้นเบา ๆ และยกคางขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ

  3. กรณีสงสัยกระดูกคอหัก:

    • ใช้วิธี Jaw Thrust (ยกขากรรไกร) โดยไม่ขยับศีรษะ

เกร็ดความรู้:
ภาวะ “ลิ้นตก” เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ผู้หมดสติไม่สามารถหายใจได้ เพราะเมื่อหมดสติ กล้ามเนื้อที่ยึดลิ้นหย่อนตัวจนลิ้นปิดทางเดินหายใจ

Breathing

B – Breathing: ตรวจสอบการหายใจ

เป้าหมาย: ประเมินว่าผู้ประสบเหตุกำลังหายใจอยู่หรือไม่ และมีประสิทธิภาพเพียงใด

วิธีตรวจสอบการหายใจ

  • มอง: สังเกตการเคลื่อนไหวของทรวงอก

  • ฟัง: เงี่ยหูฟังเสียงหายใจ

  • สัมผัส: ใช้แก้มรับสัมผัสลมหายใจ

ถ้าผู้ประสบเหตุไม่หายใจ หรือหายใจผิดปกติ เช่น หายใจเฮือก (Agonal Breathing) จำเป็นต้องดำเนินการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ทันที

การช่วยเหลือเบื้องต้น

  • เป่าปากช่วยหายใจ (Rescue Breathing) ถ้ามีความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน

  • หรือดำเนินการนวดหัวใจทันทีหากไม่หายใจ

เกร็ดความรู้:
งานวิจัยพบว่าการหายใจแบบ Agonal Respiration (ลมหายใจเฮือก) เป็นสัญญาณของภาวะหัวใจหยุดเต้นที่ไม่สมบูรณ์ ผู้พบเห็นมักเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยยังหายใจอยู่ แต่จริง ๆ แล้วต้องเริ่ม CPR ทันที

Circulation

C – Circulation: ประเมินการไหลเวียนโลหิต

เป้าหมาย: ตรวจสอบว่าหัวใจยังคงสูบฉีดเลือดได้หรือไม่

วิธีตรวจสอบการไหลเวียนโลหิต

  • คลำชีพจรที่คอ (Carotid Pulse) หรือขาหนีบ (Femoral Pulse)

  • ตรวจหาสัญญาณชีพ เช่น สีผิว อุณหภูมิ ความชุ่มชื้นของผิวหนัง

การดำเนินการช่วยเหลือ

  • หากไม่มีชีพจร ต้องเริ่มการนวดหัวใจ (Chest Compressions) ทันที

  • ทำการกดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ความลึกประมาณ 5–6 เซนติเมตร ความถี่ 100–120 ครั้งต่อนาที

เกร็ดความรู้:
งานวิจัยจาก American Heart Association แนะนำว่า คุณภาพของการกดหน้าอก (ความลึก ความถี่ และการคืนตัวเต็มที่ของหน้าอก) มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการรอดชีวิต

Disability

D – Disability: ประเมินภาวะทางระบบประสาท

เป้าหมาย: ตรวจสอบการทำงานของสมองเบื้องต้น เพื่อประเมินความรุนแรงของภาวะบาดเจ็บ

วิธีประเมิน

  • AVPU Scale: ประเมินระดับความรู้สึกตัว

    • A = Alert (รู้สึกตัวดี)

    • V = Responds to Voice (ตอบสนองเสียงเรียก)

    • P = Responds to Pain (ตอบสนองต่อความเจ็บปวด)

    • U = Unresponsive (ไม่ตอบสนอง)

การประเมินนี้ช่วยให้ผู้ให้การช่วยเหลือสามารถตัดสินใจได้ว่าควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วนหรือไม่

D ในบางมาตรฐาน (โดยเฉพาะสากล เช่น American Heart Association – AHA) หมายถึงการ Defibrillation คือการใช้เครื่อง AED

การนำ ABCD ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง

ในสถานการณ์จริง เช่น อุบัติเหตุจราจร, จมน้ำ, หรือหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน หลักการ ABCD ช่วยให้เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ลดความสับสน และสามารถลงมือช่วยเหลือได้ทันที โดยต้องจำไว้ว่าทุกวินาทีมีค่ามาก

ตัวอย่างสถานการณ์:

กรณีจมน้ำ:

  • A: ตรวจว่าทางเดินหายใจโล่งไหม (อาจมีน้ำขังในปาก)

  • B: ตรวจสอบการหายใจ (หากไม่หายใจ เริ่มช่วยหายใจทันที)

  • C: ไม่มีชีพจร → เริ่มนวดหัวใจ

  • D: ประเมินความรู้สึกตัวระหว่างทำการช่วยเหลือ

สิ่งที่ควรระวังในการปฐมพยาบาลด้วย ABCD

  • หากสงสัยว่าผู้ประสบเหตุมีกระดูกสันหลังหัก ต้องระวังไม่ขยับตัวโดยไม่จำเป็น

  • ควรใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เมื่อมีอุปกรณ์และฝึกฝนการใช้อย่างถูกต้อง

  • การช่วยเหลือที่ผิดวิธี เช่น กดหน้าอกผิดจังหวะ อาจทำให้ซี่โครงหักหรือตับม้ามฉีกขาดได้

สรุป

หลักการ ABCD ของปฐมพยาบาล คือแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุฉุกเฉิน ทักษะนี้ไม่เพียงแต่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่ประชาชนทั่วไปควรเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพราะความรู้และการลงมือช่วยเหลืออย่างถูกวิธีในวินาทีวิกฤติ อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้จริง

เพิ่มทักษะการทำ ABCD ผ่านการอบรมกู้ชีพ CPR หรืออบรมสูตรปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่คุณจะได้เรียนรู้หลักการ CPR ที่ถูกวิธีรวมถึงการปฐมพยาบาลเมื่อพบเจอผู้ประสบภัยในรูปแบบต่างๆกว่า 40 รายการ

ติดต่อสอบถามหลักสูตร :  อบรมปฐมพยาบาล.com


อ้างอิง

  1. American Heart Association. (2020). Highlights of the 2020 American Heart Association Guidelines for CPR and ECC.

  2. International Liaison Committee on Resuscitation (ILCOR). (2015). International Consensus on Cardiopulmonary Resuscitation and Emergency Cardiovascular Care Science With Treatment Recommendations.

  3. Resuscitation Council UK. (2021). Adult Basic Life Support and Automated External Defibrillation Guidelines.

  4. World Health Organization. (2018). First aid guidelines.

  5. Nolan JP, et al. (2015). European Resuscitation Council Guidelines for Resuscitation 2015. Resuscitation.


บทความที่น่าสนใจ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Yemencantwait เว็บรวบรวมความรู้มีประโยชน์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกข้อสงสัยของคุณ 

ติดต่อ

บทความ

©2025 – All Right Reserved. Designed by Yemencantwait