Home » รู้จักกับกระจกนิรภัย: คุณสมบัติและการใช้งาน

รู้จักกับกระจกนิรภัย: คุณสมบัติและการใช้งาน

by Chris Beck
71 views
1.กระจกนิรภัย

กระจกนิรภัยถือเป็นสิ่งสำคัญในสถานที่ทำงานเพื่อให้มองเห็นจุดบอด มุม และพื้นที่ที่ซ่อนอยู่ได้ชัดเจน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยได้เป็นอย่างดี มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการชนและอุบัติเหตุในพื้นที่ที่มียานพาหนะและคนเดินถนนแวะเวียนมาบ่อยๆ

นอกจากนี้ กระจกเหล่านี้ยังใช้เป็นเครื่องมือเฝ้าระวัง ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาความปลอดภัยและการจัดการความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมต่างๆ

ประเภทของกระจกนิรภัย

2.ประเภทของกระจกนิรภัย

กระจกนูน (Convex Mirrors)

กระจกนูนจะโค้งออกไปด้านนอก การออกแบบนี้ช่วยให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับกระจกเงาแบบแบน โดยทั่วไปแล้วกระจกนูนจะใช้ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ลานจอดรถ ทางรถวิ่ง และทางแยกภายในโรงงาน ซึ่งการมองเห็นรอบมุมเป็นสิ่งสำคัญ ความโค้งของกระจกเหล่านี้จะบิดเบือนภาพที่สะท้อนเล็กน้อย ทำให้วัตถุดูเล็กลงแต่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ กระจกประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงในการลดจุดบอดในการมองเห็น ทำให้เห็นภาพพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม

กระจกโดม (Dome Mirrors)

กระจกทรงโดมให้มุมมองแบบพาโนรามา ทำให้เหมาะสำหรับทางแยกในทางเดินหรือบริเวณที่มีคนเดินเท้าหนาแน่น กระจกเหล่านี้มีหลายประเภท ได้แก่ full-dome (มุมมอง 360 องศา) half-dome (มุมมอง 180 องศา) และ quarter-dome (มุมมอง 90 องศา) โดยปกติจะติดตั้งบนเพดานและให้ผู้คนมองเห็นได้ทุกทิศทางจากจุดเดียว ทำให้มีประโยชน์อย่างยิ่งในร้านค้าปลีก โกดัง และโรงพยาบาล

กระจกแบน (Flat Mirrors)

กระจกนิรภัยแบบแบนให้แสงสะท้อนที่ชัดเจนและไม่บิดเบี้ยว คล้ายกับกระจกสำหรับใช้ในครัวเรือนทั่วไป ใช้ในพื้นที่ที่การคาดเดาระยะทางที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น ในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่เครื่องจักรต้องการการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ กระจกเงาแบบแบนจะแสดงระยะทางและขนาดได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย

กระจกตรวจสอบ (Inspection Mirrors)

กระจกตรวจสอบเป็นกระจกแบบพกพาขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบ สามารถติดตั้งบนแขนบูมหรือใต้ยานพาหนะ ช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก กระจกเหล่านี้จำเป็นสำหรับการตรวจสอบใต้ท้องรถที่จุดตรวจหรือสำหรับพนักงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่ต้องตรวจสอบชิ้นส่วนขนาดเล็กของของอุปกรณ์

องค์ประกอบของวัสดุของกระจกนิรภัย

3.องค์ประกอบของวัสดุของกระจกนิรภัย

อะคริลิก

กระจกอะคริลิกมีน้ำหนักเบาและทนต่อแรงกระแทกได้ดี จึงมีโอกาสแตกหักน้อยกว่าวัสดุกระจกทั่วไป ง่ายต่อการจัดการและติดตั้งและเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง กระจกอะคริลิกมีอยู่ทั่วไปในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเนื่องจากมีความสามารถรอบด้าน

โพลีคาร์บอเนต

กระจกโพลีคาร์บอเนตมีความทนทานมากกว่าและทนต่อแรงกระแทกได้สูงกว่าอะคริลิก แทบไม่สามารถแตกหักได้ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมที่พลุกพล่านหรือพื้นที่ที่มีอันตรายหลากหลาย แม้จะมีความแข็งแกร่งกว่า กระจกโพลีคาร์บอเนตก็ยังคงมีน้ำหนักเบาและสามารถให้ความคมชัดใกล้เคียงกับกระจก

กระจก

กระจกให้ภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดและไม่บิดเบี้ยวที่สุด อย่างไรก็ตาม มีความเปราะบางมากกว่าและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้หากแตกหัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม กระจกมักใช้ในอาคารซึ่งความชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการกระแทกน้อยที่สุด เช่น ภายในอาคารสำนักงานที่มีความปลอดภัยสูง

สแตนเลส

กระจกสแตนเลสมีความทนทานสูงและเหมาะสำหรับสภาวะที่รุนแรง เช่น สภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือสถานที่ที่มีความร้อนสูงหรือสัมผัสสารเคมี กระจกเหล่านี้เกือบจะทำลายไม่ได้และทนทานต่อการกัดกร่อน แต่ไม่ได้ให้ภาพสะท้อนที่ชัดเจนเท่ากับกระจกทั่วไปหรือพลาสติก

การใช้งานกระจกนิรภัย 

  • การจราจร : ใช้ที่มุมอับและทางแยกในลานจอดรถและภายในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันการชนกัน
  • การเฝ้าระวังในร้านค้าปลีก: ติดตั้งในร้านค้าปลีกเพื่อความปลอดภัยทำให้พนักงานสามารถตรวจสอบพื้นที่มุมอับสายตาได้
  • ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน : ติดตั้งในโรงงานและโกดังเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย โดยเฉพาะบริเวณเครื่องจักร และในพื้นที่ที่มีคนเดินเท้าและยานพาหนะสัญจร
  • การตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัย : ใช้โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการตรวจสอบใต้ท้องรถหรือในพื้นที่ที่เข้าถึงยากเพื่อตรวจจับการขโมยสินค้าหรือเหตุการณ์ต่างๆ 
  • ความปลอดภัยสาธารณะ : มักใช้กระจกนิรภัยในพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เพื่อลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยโดยทั่วไป

สุดท้ายนี้  หากคุณจะต้องทำงานเกี่ยวกับรถยก หลักสูตรที่น่าสนใจที่เราขอแนะนำ คือ การอบรมโฟล์คลิฟต์ ซึ่งเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการทำงานกับรถยกถูก เพื่อเสริมความปลอดภัยและความเชี่ยวชาญในการใช้งานรถยก (Forklift) ในสถานที่ทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมรถยกได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดอุบัติเหตุต่อคนงาน โดยมุ่งเน้นเรื่องการหลีกเลี่ยงการชนกัน การตรวจสอบอุปกรณ์รถยก การโหลดและจ่ายของอย่างปลอดภัย เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจและความชำนาญในการปฏิบัติงานกับรถยกอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Yemencantwait เว็บรวบรวมความรู้มีประโยชน์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกข้อสงสัยของคุณ 

ติดต่อ

บทความ

©2024 – All Right Reserved. Designed by Yemencantwait